นาฬิกาแบรนเนม Omega ( โอเมก้า )

Omega ( โอเมก้า )

ประวัติความเป็นมาของ Omega ( โอเมก้า )

Omega ( โอเมก้า ) เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาสวิสที่มีประวัติยาวนานกว่า 170 ปี ทั้งยังเป็นนาฬิกาแบรนด์เดียวที่ผ่านการทดสอบของ NASA และสร้างสถิติให้นาฬิกาดำดิ่งลงสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของโลกผ่าน แบบทดสอบต่าง ๆ มากมาย เรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน

Omega ( โอเมก้า )

1. จุดเริ่มต้นของ Omega

เรื่องราวของ Omega เริ่มต้นขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์ในปี 1848 ออกแบบโดยช่างนาฬิกาหนุ่มวัย 23 ปี ชื่อ Louis Brandt และเพียงไม่กี่ปีต่อมา คุณภาพของนาฬิกา Louis Brandt ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากผ่านไปกว่า 31 ปี Louis Brandt (หลุยส์ แบรนด์ต) ได้ดูแล Omega (โอเมก้า) 

และในปี 1879 โดยลูกชายสองคนของเขา Louis Paul (หลุยส์ พอล) และ César Brandt (ซีซาร์ บรันต์) Brandt ก็ได้จากไปอย่างสงบ พวกเขาร่วมกันเปิดตัวกลไกแรกและต่อมาได้ผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกที่มีเครื่องหมายชั่วโมงและนาที คุณภาพดีเยี่ยมและมีความแม่นยำสูง จนโด่งดัง

Omega ( โอเมก้า )

กำเนิดตำนาน Seamaster

ในปี 1948 แบรนด์ Omega ได้เปิดตัวซีรีย์ Seamaster อย่างเป็นทางการ Omega ยังผลิตนาฬิกาสำหรับภารกิจต่าง ๆ ให้กับกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งแตกต่างจาก Seamaster ที่เราคุ้นเคยในฐานะนาฬิกาแต่งตัวเรือนแรกที่ออกแบบให้กันน้ำได้เพียงเล็กน้อย

Omega ( โอเมก้า )

2. ยุคทองของ Omega

เริ่มต้นจากการแข่งขันเพื่อความเที่ยงตรงในปี 1950 Omega ได้เปิดตัวคอลเลกชัน Constellation ที่สร้างขึ้นในปี 1952 เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงอันดับหนึ่งและได้รับการรับรองมาตรฐานสูงสุดของ COSC Constellation จึงมีมาตรฐาน COSC บนนาฬิกาทุกเรือนและ Chronometer บนหน้าปัดทุกเรือน

Omega ( โอเมก้า )

กำเนิด The Trio Of Master Watch

ห้าปีต่อมา ในปี 1957 Omega ได้เปิดตัวนาฬิกา Trio of Master สามรุ่นสำหรับมืออาชีพ ได้แก่ Seamaster 300, Ironmaster และ Speedmaster โทร (ทรอปิคอล) สีดำ มาสเตอร์ซีรีส์ทั้ง 3 รุ่นจะนำเสนอคุณสมบัติแบบบูรณาการบนเข็มนาฬิกาเป็นลูกศรแบบกว้าง ดูเหมือนลูกศรที่ไม่เหมือนใคร

Omega ( โอเมก้า )

3. ที่มาของชื่อเล่น "Moonwatch"

ประการแรก ก่อนภารกิจอพอลโล 11 นาซากำลังเตรียมภารกิจสำคัญในอวกาศอีกสองภารกิจ ได้แก่ ภารกิจเจมิไนและภารกิจอพอลโล ภารกิจสำคัญคือความแม่นยำและสภาพแวดล้อม เป็นผลให้มีเพียง Omega Speedmaster เท่านั้น

ที่ผ่านการทดสอบทั้งหมด ดังนั้นนาฬิกาจึงสวมอยู่บนข้อมือของนักบินอวกาศ จากนั้นในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ระหว่างภารกิจอพอลโล 11 บัซ อัลดริน ผู้เหยียบดวงจันทร์คนที่สองได้สวมนาฬิกา Omega Speedmaster Professional Movement 321 ซึ่งเป็นนาฬิกาเรือนแรกของโลกที่ลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ จึงได้สมญานามว่า “พระจันทร์”

Omega ( โอเมก้า )

4. ยุค Quartz Crisis

ในช่วงปี 1970 วิกฤตการณ์ของควอตซ์ส่งผลกระทบต่อแบรนด์นาฬิกาหลายแบรนด์ และ Omega ก็ได้พัฒนาระบบควอตซ์ของตัวเองในไม่ช้า หนึ่งในนั้นคือ Constellation Electroquartz f8192 Hz ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนั้น เนื่องจากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความแม่นยำสูงมาก

Omega ( โอเมก้า )

5. Seamaster กับ James Bond

จุดเปลี่ยนทำให้ Seamaster กลายเป็นจุดสนใจในปี 1995 เมื่อ Pierce Brosnan ผู้รับบทเป็น James Bond สวม Omega Seamaster Pro Diver 300M ในภาพยนตร์ GoldenEye เกือบ 30 ปีต่อมา Seamaster ยังคงเป็นนาฬิกาที่เจมส์ บอนด์เลือก ดังนั้นจึงเรียกนาฬิกาเรือนนี้ว่า “นาฬิกาเจมส์ บอนด์”

Omega ( โอเมก้า )

6. Omega ในยุคปัจจุบัน

Omega เป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่ผ่านการทดสอบตามเวลามากที่สุดในโลก แต่ Omega ไม่เคยหยุดพัฒนา นาฬิการุ่นใหม่ของ Omega ใช้เทคโนโลยีโคแอกเชียลเพื่อยกระดับการเคลื่อนไหว ซึ่งมีความแม่นยำสูงขึ้นและความแรงของสนามแม่เหล็กที่ต้านได้สูงถึง 15,000 เกาส์ ในแง่ของการสร้างสถิติโลก ในปี 2019 

นักผจญภัยชาวอเมริกันและโอเมก้าร่วมมือกันเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ ด้วยการนำทีมนักผจญภัยและนักประดาน้ำสวมนาฬิกามืออาชีพ Omega Seamaster Planet Ocean Ultra Deep เพื่อดำน้ำลึกที่สุดที่ความลึก 10,928 เมตร สถิติโลกสำหรับการดำน้ำที่ลึกที่สุดจึงถูกกำหนดขึ้นในทันที

อ่านเพิ่มเติม : นาฬิกาแบรนเนม

ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติม : https://newsbrandname.com/

ติดต่อสอบถาม และ เข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ LINE : @UFA656

โปรดยืนยันว่าคุณบรรลุข้อกำหนดด้านอายุตามกฎหมาย (18 ปีขึ้นไป) เพื่อดำเนินการต่อ