รีวิว รองเท้าแบรนเนม ASICS

มาทำความรู้จัก รองเท้าแบรนเนม ASICS แบรนด์ญี่ปุ่นระดับโลกที่ก่อตั้งโดยทหารที่หายไปและได้รับแรงบันดาลใจจากหนวดปลาหมึก
รองเท้าแบรนเนม ASICS เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีประวัติยาวนานในวงการกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในญี่ปุ่น ASICS ได้ปูทางให้กับอุตสาหกรรมชุดกีฬา ของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1949 ด้วยแถบ 4 แถบที่คล้ายกับตัวอักษร A ที่ด้านข้างของรองเท้า ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงเทคโนโลยี เฉพาะที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อ แข่งขันกับแบรนด์รองเท้าจากฝั่งตะวันตก “ANIMA SANA IN CORPORE SANO” เป็นคำภาษาละติน ที่สามารถ แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “ร่างกายที่แข็งแรงย่อมมีจิตใจที่แข็งแรง” เมื่อนำอักษรตัวแรกของคำทั้ง 5 คำนี้มารวมกัน จะกลายเป็นชื่อแบรนด์รองเท้า “ASICS” แม้แต่นักกีฬาชื่อดังอย่าง Novak Djokovic นักเทนนิสมือวางอันดับหนึ่งของโลก และ Isai Thomas นักบาสเกตบอล NBA ชื่อดังก็ยังใช้มันก่อนที่ จะขยายตลาดไป ยังลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนหลัก ของรองเท้า และเครื่องแต่งกายอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกปี 2020 ที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย ในบ้านเกิดของรองเท้าแบรนด์นี้
แต่ผู้ก่อตั้ง Kihachiro Onitsuka
ผ่านการลองผิดลองถูก มากมายก่อนที่ ASICS จะมาถึงจุดนี้ จากห้องนั่งเล่น ในบ้านของเขาในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ความคิดหนึ่งมาถึงเขาขณะ ที่เขานั่งมองดูหนวดปลาหมึกยักษ์ ที่ติดอยู่กับชามของเขา ช้าลงหน่อยแล้วหนวดปลาหมึกเกี่ยวอะไรกับรองเท้าแบรนด์ดังจากแดนอาทิตย์อุทัยแบรนด์นี้? นักเขียนแนวไลฟ์สไตล์ของ Main Stand “ณัฐพล ทองประดู่” จะเขียนบทความนี้ให้คุณอ่าน
รองเท้าแห่งความหวัง
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2488 จักรวรรดิญี่ปุ่น ได้ประกาศสงคราม กับฝ่ายอักษะ และในวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 เยอรมนี และนาซีได้รับความเสียหาย จากระเบิดปรมาณูที่ทิ้งลงที่ฮิโรชิมา ซึ่งนำไปสู่การยอมจำนนของฝ่ายพันธมิตร ไม่ใช่แค่บ้านที่เสียหาย อีกทั้งขวัญกำลังใจ ของชาวญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบ จากสงครามอย่างหนัก ที่ต้องประสบปัญหา ขาดแคลนอาหารและที่อยู่อาศัย
รวมถึงการแทรกแซง ของชาติมหาอำนาจ อย่างสหรัฐอเมริกาที่ควบคุมโดย “นายพลดักลาส แมคอาเธอร์” ที่ทำให้ระบอบการปกครอง ของญี่ปุ่นสั่นคลอน สิ่งนี้นำไปสู่นโยบาย ทางการเมืองหลายชุดที่ใช้ในการควบคุมญี่ปุ่น

หนึ่งในนั้นคือการลดอาวุธทางทหาร เพราะหลังจากแพ้สงครามญี่ปุ่น ก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบประมาณทางการทหารเหมือนแต่ก่อน นายพลแมคอาเธอร์ แนะนำให้มีการปฏิรูปทางสังคม และเศรษฐกิจในญี่ปุ่น อย่างกว้างขวาง ส่งผลให้บ้านเมืองฟื้นตัวจากภัยสงคราม อย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับประเทศที่กำลังก่อตัวขึ้น ในหมู่พวกเขามีเจ้าหน้าที่อาวุโส “คิฮาชิโระ โอนิซึกะ” ซึ่งดำรงตำแหน่ง เป็นผู้ดูแลในกองทัพญี่ปุ่น รู้ถึงความสำคัญ ของจิตใจของบุคคลเขาเชื่อว่ากีฬามีส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูขวัญ และกำลังใจของผู้คน สิ่งที่เขาเลือกทำคือการผลิตรองเท้าผ้าใบ
รองเท้าของทหารที่ล้มลง
Kihachiro Onitsuka เกิดที่ Matsushita เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 1918 จังหวัดทตโตริ เขาเป็นลูกคนสุดท้องในครอบครัวเกษตรกรรมเป้าหมายของเขาในช่วงวัยกำลังก่อสร้างคือการเข้าโรงเรียนเตรียมทหารและเป็นสมาชิกของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังจากผ่านการสอบเข้าวิทยาลัย โอนิซึกะได้รับมอบหมายให้ดูแลบริษัทที่สิบในเมืองฮิเมจิ ก่อนดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการกองทัพบกหลังจากประจำการในจังหวัดเฮียวโงะเป็นเวลาหนึ่งปีตั้งแต่ปี 1939 ถึง 1945 จนกระทั่งสิ้นสุดสงคราม Onizuka ได้เห็นความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง
เขามีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเยาวชน พยายามช่วยให้พวกเขาสร้างอนาคตที่ดีขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากกีฬา. เพราะเขาเชื่อว่าวิธีรักษาความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกายรองเท้าต้นแบบตัวแรกที่เขาประดิษฐ์ขึ้น เกิดในห้องนั่งเล่นของบ้านโกเบ จังหวัดเฮียวโงะก่อตั้ง “หอการค้าโอนิซึกะ” ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2492
จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Onitsuka
คือการผลิตรองเท้าสำหรับเด็กนักเรียน สำหรับชั้นเรียนพละของโรงเรียนเท่านั้น และไม่มีบริษัทอื่นทำรองเท้าผ้าใบในเวลานั้น ทำให้บริษัทของเขาเป็นบริษัทรองเท้าผ้าใบแห่งแรกในญี่ปุ่นในขณะเดียวกันเมื่อรวมกับภูมิหลังทางสังคมของญี่ปุ่นในทศวรรษที่ 1950 ก็เกิดปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่เรียกว่า “ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจญี่ปุ่น” เกิดจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจของประเทศ ช่วงเวลาของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกานี้ยังเป็นช่องทางให้ญี่ปุ่นสามารถเข้าร่วมวงจรเศรษฐกิจโลกได้อีกครั้งเห็นได้ชัดว่าวัฒนธรรมตะวันตกเริ่มถูกดูดซับโดยญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ภายใต้การแทรกแซงของอเมริกา ค่านิยมแบบอเมริกันได้รับความนิยมมากขึ้นผ่านกีฬาอเมริกัน เช่น เบสบอลและบาสเก็ตบอล สนามกีฬาของอเมริกาเริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น Onitsuka มีความคิดที่จะพัฒนารองเท้าบาสเก็ตบอลของตัวเอง เพื่อให้สามารถเทียบเคียงกับรองเท้าต่างประเทศได้. แต่จนถึงตอนนี้ Onitsuka ก็ยังไม่สามารถหาจุดสว่างให้กับรองเท้าของเขาได้ จนกระทั่งปี 1951 Onitsuka ได้เกิดแนวคิดใหม่ขึ้น ในขณะที่กินสลัดปลาหมึก เขาเห็นปลาหมึกที่มีหนวดติดอยู่ที่ข้างชาม ดังนั้นเขาจึงเกิดแนวคิดในการทำรองเท้าให้ติดพื้น Onitsuka ยังได้แรงบันดาลใจสำหรับรูปแบบ 4 เส้นจากภาพของตะเกียบที่ถือหนวดปลาหมึกในขณะนั้น
อ่านเพิ่มเติม : รองเท้าแบรนเนม
ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติม : https://newsbrandname.com/