รีวิวน้ำหอม 'Eau de Cologne'

ขอแนะนำ น้ำหอมแบรนเนม 'Eau de Cologne' ผู้ชายดั้งเดิมที่แบ่งเขตแดนระหว่างเพศอย่างชัดเจน
น้ำหอมแบรนเนม ‘Eau de Cologne’ ความจริงอันลึกซึ้ง โอเปร่าที่ยิ่งใหญ่ และแม้แต่บทสนทนา ที่สะเทือนใจ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งเดียว ที่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำ ของมนุษย์หรือไม่ ประชาชนมักให้ความสำคัญ กับวีรกรรมที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ ยังขาดปฏิสัมพันธ์ ส่วนตัวกับเรา ไม่ลงลึก ไปถึงหัวใจ เราค้นพบว่าเรื่องราวเหนือกาลเวลาซ่อน อยู่ในสิ่งละอันพัน ละน้อย ใส่ใจในรายละเอียด ของชีวิตแม้ในกลิ่นของลม
ในยุคสมัยที่ผู้ชายและผู้หญิงยังคงใช้กลิ่นร่วมกันได้
เส้นแบ่งระหว่าง น้ำหอมของผู้ชาย และผู้หญิงนั้นเลือนลาง จนกระทั่งการปรากฏตัวของ “โอ เดอ โคโลญจน์” (Eau de Cologne) ซึ่งสร้างโดยนักเลงชาวอิตาลี จิโอวานนี มาเรีย ฟารีนา (Giovanni Maria Farina) ในปี 1709 จึงแปลตรงตัวได้ว่า “โคโลญ” “น้ำแห่งโคโลญ” ได้รับการตั้งชื่อ เพื่อเป็นเกียรติ แก่ที่อยู่อาศัยใหม่ ในชีวิตของเขา นี่คือเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี Giovanni บรรยายถึงกลิ่น ที่สดชื่นราว กับอากาศบนภูเขาในเช้า
ฤดูใบไม้ผลิกลิ่นหอมอบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรอันเข้มข้นของดอกลาเวนเดอร์และดอกส้ม
เป็นที่นิยมมากในหมู่ ขุนนางเพราะรสชาติอ่อน กว่าน้ำหอมทั่วไป ณ เวลานั้น ด้วยความนิยม ของโคโลญจน์ที่หรูหราและสดชื่น คำว่า “โคโลญ” จึงได้รับความหมาย ใหม่ทั้งหมด ซึ่งหมายถึงกลิ่น ที่เบาและ สว่างกว่า เมื่อเวลาผ่านไปคำนั้นได้พัฒนาความหมาย จนกลายเป็นชื่อที่เราเข้าใจ กันในยุคปัจจุบัน เพื่อบ่งบอกถึงความเข้มข้น ของสารให้กลิ่นหอมที่เติมในน้ำหอม นั่นคือ Eau de Cologne ที่มีความเข้มข้นต่ำสุด และต่อมา Eau de Bathroomte ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าก็ถูกเรียกว่า Eau de Parfum

ต่อจากนั้น ชายหนุ่มทุกคน
เคยพึ่งพาร้านตัดผม ในการตัดแต่ง หนวดเครา เพื่อสุขอนามัย ด้วยการใช้อาฟเตอร์เชฟเพื่อฆ่าเชื้อและรักษาบาดแผล ที่เกิดจากใบมีดโกน แต่ด้วยวิวัฒนาการของใบมีด ผู้ชายจำนวนมาก ขึ้นไม่จำเป็นต้องไปหาช่างตัดผมเพื่อเล็มหนวดอีกต่อไป หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อหนวดเครา ได้รับความนิยม ในหมู่คนหนุ่มสาว โคโลญจึงได้รับเลือกให้เป็นทางเลือก แทนการโกนหนวด จนเป็นที่นิยมใน กลุ่มลูกค้าผู้ชาย เพราะมี Essential Oil ที่สามารถสมานผิวได้ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมสดชื่น ตั้งแต่นั้นมาจึงถูกเข้าใจว่าเป็นสัญลักษณ์
นอกจากนี้ยังมี ความแตกต่าง ที่ชัดเจนในตลาดโคโลญจน์ สำหรับผู้ชาย และน้ำหอมผู้หญิง เห็นได้ชัดในอเมริกา เพราะแม้ว่าผู้ชายจะใช้น้ำหอม ที่มีความเข้มข้นสูงกว่า โคโลญจน์มาก แต่การเลือกใช้คำทางการ ตลาดและนิสัยการใช้คำในบทสนทนาในชีวิตประจำวัน คำว่า “โคโลญจน์” ก็ยังใช้อยู่ ซึ่งแตกต่างจากคำว่า “น้ำหอม” ที่ผู้หญิงใช้จากนั้นก็มีความคิดเกี่ยวกับความแตกต่าง ระหว่างกลิ่น ของผู้ชายกับกลิ่นของผู้หญิง
ในปี 1934 Caron ผู้บุกเบิกน้ำหอมชาวฝรั่งเศสได้สร้างสรรค์น้ำหอมที่ออกแบบมาสำหรับผู้ชาย
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “Pour Un Homme” (น้ำหอมสำหรับผู้ชาย) ซีดาร์บันทึกด้วยวานิลลาไหม้ และขม และต่อมมัสค์ได้มีการนำสารสังเคราะห์ มาแต่งกลิ่นน้ำหอม มากมายในยุคนั้น สิ่งนี้ทำให้น้ำหอม สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ราคาถูกลง และเป็นเชิง อุตสาหกรรมมาก ขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา กลายเป็นทาง เลือกใหม่ของหนุ่ม ๆ ที่อยากมีน้ำหอม สักขวดไว้ประดับห้องน้ำ แต่เบื่อใช้โคโลญจน์ซ้ำ กับชาวบ้าน จนกระทั่งมีการผลิตน้ำหอม ผู้ชายแบรนด์อื่น ๆ จนถึงปัจจุบัน น้ำหอมหลากหลายชนิด ได้ถูกสร้างขึ้น ทั้งแบบ fougere, อะโรมาติก, ไซปรัส หรือแนวตะวันออก และปัจจุบันถูกจัดอยู่ในประเภทดีไซเนอร์, เฉพาะกลุ่ม, คนดัง, อินดี้ หรือสีเขียว
อ่านเพิ่มเติม : น้ำหอมแบรนเนม
ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติม : https://newsbrandname.com/