
ขายสินค้ายังไงให้คนยอมจ่าย เรียนรู้กลยุทธ์จากแบรนด์ดัง
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โลกตกอยู่ในสถานการณ์ของโควิด-19 แต่สินค้าแบรนด์เนมหลายรายการกลับมีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะกระเป๋าถือเพิ่มขึ้นกว่า 25%
4 เหตุผลที่สินค้าแบรนด์เนมขายดี
——เพราะมันหายาก มันจึงพิเศษกว่า
– ช่องทางการจัดจำหน่ายที่จำกัด
– ช่วยบ่งบอกสถานะได้
– สร้างประสบการณ์ความเป็นเจ้าของ
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมสินค้าดีไซเนอร์ราคาแพงถึงขายดี?
ในปี 2022 เว็บไซต์ Brand Director จะรวบรวมข้อมูลมูลค่าแบรนด์ หากไม่รวมรายได้หรือหุ้นของบริษัท “Apple” ได้รับรายงานว่าเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าถึง 11.8 ล้านล้านบาท ครองแชมป์ติดต่อกันหลายปี
นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกยังติดอยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เคยสังเกตไหมว่าราคาของ Hermes, CHANEL, Louis Vuitton, Gucci และสินค้าแบรนด์ดังอื่นๆ นั้น มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะกระเป๋าถือว่ากันว่าเพิ่มขึ้นสูงถึง 25% (ข้อมูลจาก Cariber) และ Bernstein Investment Research Institute ได้คำนวณราคาที่เพิ่มขึ้นของสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 6-7% ต่อครั้ง
ดังจะเห็นได้จากข้อมูลข้างต้นไม่ว่าเศรษฐกิจจะแย่แค่ไหน หรือราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้นเท่าไร? แต่สินค้าที่มี Brand Value สูงๆ หรือ Brand Name ต่างๆ ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะอะไร ถึงขายดี? และมันแพงไหมที่จะอยากได้ทั้งสองอย่าง? เราจะนำไปใช้กับธุรกิจของเราได้อย่างไร? มาวิเคราะห์กัน
เพราะหายากและพิเศษ.
หากแบรนด์ทำให้ทุกคนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของตนและค้นหาได้ง่าย เราก็ไม่จำเป็นต้องค้นหาให้ยุ่งยาก ดังนั้น หนึ่งใน DNA ที่แบรนด์หรูไม่ชอบทำคือการผลิตจำนวนมาก เพราะยิ่งหายากก็ยิ่งมีค่า ดังนั้นหากคุณต้องการให้สินค้าของคุณเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากการทำให้สินค้ามีคุณภาพเป็นพิเศษแล้ว ยังผลิตในปริมาณที่ไม่มากเกินไปอีกด้วย อาจช่วยให้สินค้าของคุณดูพิเศษยิ่งขึ้น
ช่องทางการจัดจำหน่ายที่จำกัด
ยกเว้นการผลิตชุดเล็ก อีกวิธีที่นิยมในการใช้สินค้าแบรนด์เพื่อทำให้สินค้าดูพิเศษและหาได้ยากคือการจำกัดช่องทางการจัดจำหน่าย การปล่อยไว้ให้ผู้ที่ต้องการและต้องการจริงๆ ไม่ใช่สินค้าที่คนทั่วไปจะซื้อได้ สิ่งนี้อาจทำให้เกิดความยุ่งยากแก่ลูกค้า แต่ในทางกลับกันก็สร้างความภูมิใจได้เช่นกัน ไม่ง่ายไปกว่าการหามาครอบครอง ไม่ใช่แค่ปริมาณ แต่ต้องใช้ความพยายามและความอดทน แต่กลยุทธ์นี้ใช้ได้ อย่าลืมคุณต้องมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การมีคุณค่าและคุณค่าก็ทำให้คนอยากได้เช่นกัน
ช่วยบ่งบอกสถานะได้
อีกเหตุผลหนึ่งในการซื้อสินค้าแบรนด์หรู ลูกค้าบางคนเพื่อช่วยแสดงฐานะ แน่นอนว่า ระหว่างขับรถแบรนด์เนมในตลาด กับขับ BMW ยังไงรถ BMW ก็ต้องดูดีและดูหรูหรากว่า คุ้มทุนในกรณีนี้เราอาจไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสินค้าสูงเกินไป ตราบใดที่เราสามารถสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ชัดเจนได้ว่าลูกค้าที่มาซื้อสินค้าของเรามีลักษณะนิสัยอย่างไร ไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร? คุณชอบอะไร ก็อาจช่วยดึงดูดลูกค้าที่ชอบไปในทิศทางเดียวกับแบรนด์ของคุณได้ เช่น ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณคือผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณคือคนยุคใหม่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและอื่นๆ
สร้างประสบการณ์การเป็นเจ้าของจาก 3 ข้อข้างต้น ปรากฎว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่จะเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์สำหรับนักออกแบบเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่เหตุผลสำคัญอีกข้อที่ผู้บริโภคจำนวนมากเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมก็คือการได้รับประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่เหนือกว่าและแตกต่าง ไม่จำเป็นต้องเป็นประสบการณ์ที่หรูหราหากเราสามารถสร้างความรู้สึกเดียวกันให้กับลูกค้าของเราได้ แต่จะต้องเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาได้จากที่นี่เท่านั้น ดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ไม่ยาก แต่อย่าลืมว่าเพื่อความยั่งยืนนั้นสินค้าหรือบริการเหล่านี้ต้องมีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วย เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจจะกลายเป็นกระแสที่ผ่านไปและหายไป
ข้อสรุปสุดท้ายที่ผมอยากฝากไว้ก็คือ ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะอยู่ในระดับใด ที่สำคัญไม่ใช่ว่าทุกแบรนด์จะต้องขายในราคาพรีเมี่ยม มองแค่ที่คุณค่า แต่มองที่ตัวเราว่าจะวางตำแหน่งตัวเองอย่างไร ต้องจำไว้ว่าการทำธุรกิจในปัจจุบันไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่เราต้องสร้างอารมณ์ การสร้างการรับรู้ถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย เพราะทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกัน