รีวิว กระเป๋าแบรนเนม Louis Vuitton Neverfull

กระเป๋าแบรนเนม Louis Vuitton Neverfull
คุ้มค่ากับการลงทุน กระเป๋าแบรนเนม Louis Vuitton Neverfull ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

กระเป๋าแบรนเนม Louis Vuitton Neverfull เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมระดับโลก ถือเป็น “กระเป๋าอินเทรนด์” ขึ้นมาทันที ด้วยรูปทรงดีไซน์สวยงามที่เข้าได้กับเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ รวมถึงตามกระแสแฟชั่นในยุคต่าง ๆ ความนิยมอย่างต่อเนื่องทำให้ราคากระเป๋าใบนี้ขึ้นเกือบทุกปีและราคาในตลาดมือสองสูงถึง 65-80% จึงเป็นเหตุให้

 Neverfull เป็น เป็นที่นิยมมาก เรามีคำตอบให้กับคุณกระเป๋าที่ไม่รู้จักพอ Neverfull เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2550 โดยใช้แนวคิดกระเป๋าโท้ต ดังชื่อกระเป๋าที่ว่า “ไม่เคยเติมทั้งวัน” การออกแบบที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง ถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่เป็นที่ปรารถนามากที่สุดสำหรับผู้หญิงกระเป๋าหนึ่งใบใช้เวลาเย็บถึง 45 ชั่วโมง

โดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ ด้านนอกของกระเป๋าเย็บจากวัสดุแคนวาสคุณภาพสูง ด้านในบุด้วยผ้าเนื้อดี โดยเราสามารถแบ่ง Neverfull ออกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นที่ผลิตในปี 2550-2557 และรุ่นที่ผลิตในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน รุ่นปี 2557 มาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก (Pouch) โดยทั้ง 2 รุ่น

มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รายละเอียด.กระเป๋าได้รับการออกแบบมาให้มีทั้งหมด 3 ขนาด คือ PM ขนาดที่เล็กที่สุด (Petite Modele), MM ขนาดกลาง (Moyen Modele) และ GM ขนาดใหญ่ (Grand Modele) ขนาดยอดนิยมคือ MM หรือ M เหมาะเป็นกระเป๋าคู่ใจ (เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นส่วนกระเป๋าใน The Anatomy of the Louis Vuitton Neverfull)

กระเป๋าแบรนเนม Louis Vuitton Neverfull
ขนาดกระเป๋า Neverfull - กระเป๋า Neverfull - Louis Vuitton Neverfull

หลาย ๆ คนอาจไม่รู้ว่าความพิเศษของกระเป๋าใบนี้คือเป็นกระเป๋าคู่หรือกระเป๋าที่ใช้งานได้ทั้งสองด้านและยังเป็นกระเป๋าที่ใช้ได้กับกระเป๋าทุกใบอีกด้วย จะทำการทดสอบน้ำหนัก นอกจากความทนทานของผ้าคาดด้านหน้าที่ขายแล้ว ยังได้รับการบันทึกไว้ว่ากระเป๋าขนาด GM หรือขนาดที่ใหญ่ที่สุดสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 231 ปอนด์

หรือประมาณ 100 กก.Neverfull เป็นอีกหนึ่งกระเป๋า Louis Vuitton ที่ศิลปินชื่อดังมากมายเลือกใช้ ออกแบบมาเพื่อประดับกราฟิกบนกระเป๋า สร้างสรรค์กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดหลายใบที่ไม่พบทั่วไปในเว็บไซต์ของ Louis Vuitton สิ่งแรกที่ต้องดูคือตลาดแบรนด์มือสอง

การขึ้นราคาอย่างไม่สิ้นสุด

ด้วยเหตุผลด้านการออกแบบ Neverfull จึงเป็นกระเป๋าในฝันของแฟน ๆ Louis Vuitton หลายคน การมีราคาไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งราคาขายต่อก็ไม่ต่ำกว่าราคาซื้อเดิมมากนัก ลายยอดนิยมคือ Damier Ebene หรือลายตารางหมากรุกที่คุ้นเคย ราคาตลาดมือสองอาจสูงถึง 899-999 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 27,900-30,900 บาท สำหรับกระเป๋าเก่าและมือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 500 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 17,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพของกระเป๋ากระเป๋าที่ผลิตหลังปี 2014 จะมาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก ซึ่งกระเป๋าใบเล็กใบนี้

กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดมือสองก็มีข้อดีตรงที่หากไม่ต้องการ คุณยังสามารถขายทีละรายการได้ ช่วงราคาอยู่ที่ 250-300 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 250-9300 เหรียญสหรัฐฯ/ถุง กระเป๋ามีสองขนาด: 19.3 x 12 ซม. (7.6 x 4.75 นิ้ว) พร้อมถุง PM และ 24.7 x 15.2 ซม. (9.75 x 6 นิ้ว) มีจำหน่ายในถุงขนาด MM และ GM Neverfull มีราคาอยู่ที่ 700 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,800 บาท) เมื่อวางจำหน่ายครั้งแรก และตั้งแต่นั้นมาราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย

กระเป๋าแบรนเนม Louis Vuitton Neverfull

ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น ในปี 2013 ราคากระเป๋า Speedy และ Neverfull เพิ่มขึ้น 10% ในยุโรป สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา แต่ในเอเชีย ราคากระเป๋าแบบเดียวกันเพิ่มขึ้นเพียง 5-10% เท่านั้น ราคาจะแตกต่างกันไปตามความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในขณะนั้นจากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่าราคาของกระเป๋าใบนี้เพิ่มขึ้นถึง 41.5% จากการเปิดตัวในปี 2550 ถึง 2561 และปี 2557 

ถือเป็นปีที่ราคาของ Neverfull พุ่งสูงขึ้น หากเพิ่มกระเป๋าใบเล็ก ในปี 2562 ราคากระเป๋าอยู่ที่ 47,500 บาท และในปี 2563 ล่าสุดราคาอยู่ที่ 49,800 บาท ซึ่งเท่ากับราคาที่เพิ่มขึ้น 3.1% เอาตัวอย่างนี้เป็นตัวอย่าง . นี่คือราคากระเป๋า Neverfull ไซส์ MM กระเป๋ารุ่น Limited Edition ราคาจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในตลาดมือสองโดยปกติแล้ว Louis Vuitton จะขึ้นราคากระเป๋าถือปีละสองครั้งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคม ราคากระเป๋าเพิ่มขึ้นทุกปีและที่สำคัญไม่มีส่วนลด หรือสินค้าล้าหลังโดยสิ้นเชิง

Louis Vuitton Neverfull - Louis Vuitton Neverfull - ราคาเนเวอร์ฟูล

ทำไม Louis Vuitton ถึงขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างมีราคาแพงขึ้นเนื่องจากมูลค่าแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยรอบข้างต่าง ๆ ทำให้การหาวัตถุดิบหลักในการผลิตถุงเป็นเรื่องยาก รวมถึงค่าแรงที่สูงขึ้น ประกอบกับการขยายตัวและสภาวะเศรษฐกิจ ความต้องการของตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์นี้ยังคงมีสูง

 ส่งผลให้ราคาของผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยแบรนด์ระดับไฮเอนด์จะต้องคงอยู่ในระดับไฮเอนด์ เป็นที่ทราบกันดีว่าแบรนด์ Louis Vuitton เป็นแบรนด์หรูระดับโลกที่ใคร ๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ สินค้าตัดเย็บที่ไม่ได้มาตรฐานจะไม่จำหน่ายโดยไม่มีส่วนลดสินค้า การรักษามูลค่าแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ ส่งผลให้แบรนด์สามารถเติบโตต่อไปได้

อ่านเพิ่มเติม : กระเป๋าแบรนด์เนม

ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติม : https://newsbrandname.com/

ติดต่อสอบถาม และ เข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ LINE : @UFA656

โปรดยืนยันว่าคุณบรรลุข้อกำหนดด้านอายุตามกฎหมาย (18 ปีขึ้นไป) เพื่อดำเนินการต่อ